นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่า ในสัปดาห์หน้าราคาไข่ไก่ในตลาดทั่วไปจะปรับตัวลดลง หลังจากที่กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดมาตรการขอความร่วมมือจากสมาชิกและเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ ให้ยืดอายุแม่ไก่แก่ยืนกรงออกไปจาก 78 สัปดาห์ ไปจนถึง 82 สัปดาห์ เพื่อให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากสภาพอากาศที่เย็นลง รวมทั้งมาตรการอื่นๆ จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการมีมาตรการจากรัฐบาลในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านการตลาดอย่างเร่งด่วนอีกด้วย
สำหรับสถานการณ์ราคาและการผลิตสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2553 ปรากฏว่า สินค้าที่ออกสู่ตลาดมาก ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ ได้แก่ เงาะ มังคุด และลองกอง รวมถึงข้าวนาปรัง ในส่วนของราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นาสัปดาห์นี้ สินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง เงาะโรงเรียน มังคุด ลองกอง สุกร และไก่เนื้อ โดยข้าวนาปรัง เงาะ มังคุด ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ในส่วนของสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ พบว่ามี มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน และลำไย โดยมันสำปะหลัง ราคาลดลงเนื่องจากระยะนี้มีฝนตกมากขึ้นส่งผลให้คุณภาพหัวมันสดและเปอร์เซ็นต์แป้งลดลง ส่วนทุเรียน และลำไย ราคาลดลงเนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยเฉพาะทุเรียนมีผลผลิตจากภาคใต้ที่เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยลำไยราคาอาจจะปรับตัวลดลง เนื่องจากลำไยภาคเหนือจะออกสู่ตลาดมากขึ้น
ส่วนยางพารา คาดว่าราคาจะลดลงเนื่องจากมีปัจจัยลบจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าส่งผลให้ราคาตลาดโตเกียวปรับลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ อุปทานยางที่มีน้อยจากภาวะฝนตกทางภาคใต้ จะส่งผลให้ราคายางไม่ปรับลงมากในระยะนี้