นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตประจำเดือนมิ.ย.53 ว่า กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 33,646.91 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 7,425.99 ล้านบาท หรือ 28.32% (เดือนมิ.ย. 52 จัดเก็บได้ 26,220.91 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 9,642.56 ล้านบาท หรือ 40.17%
สำหรับรายได้ภาษีสรรพสามิตในเดือนมิ.ย.53 ที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้ 12,563.77 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,830.90 ล้านบาท หรือ 43.87% 2.ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 7,098.82 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการ 3,570.48 ล้านบาท หรือ 101.19%
3.ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 4,946.45 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,805.36 ล้านบาท หรือ 57.48% 4.ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้4,408.88 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเล็กน้อย 391.93 ล้านบาท หรือ 9.76% และ 5.ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 2,777.11 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 201.62 ล้านบาท หรือ 6.77 %
"สาเหตุที่ภาษีสุราจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ทำให้กระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีสุราในเดือนนี้ต่ำกว่าประมาณการณ์" นายอารีพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากผลการจัดเก็บรายได้เดือนมิ.ย.53 ที่สูงกว่าเป้าหมายส่งผลให้รายได้ภาษีสรรพสามิตในรอบ 9 เดือนปีงบประมาณ 2553 จัดเก็บได้ 306,338.04 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน 100,414.98 ล้านบาท (ปีก่อนจัดเก็บได้จำนวน 205,923.06 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการจำนวน 86,359.86 ล้านบาท หรือ 39.26%
โดยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุดที่ 115,549.49 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 55,701.95 ล้านบาท อันดับสามได้แก่ ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 46,045.13 ล้านบาท อันดับสี่ได้แก่ ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 40,197.87 ล้านบาท และอันดับที่ห้าได้แก่ ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 32,447.89 ล้านบาท
"กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 53 การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตจะเป็นไปตามประมาณการที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ 366,000 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น" นายอารีพงศ์ กล่าว