World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 8, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนจะรายงานผลประกอบการที่สดใส หลังจากสเตท สตรีท คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทการเงินของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งข่าวดังกล่าวสามารถบดข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยุโรปได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 274.66 จุด หรือ 2.82% ปิดที่ 10,018.28 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 32.21 จุด หรือ 3.13% ปิดที่ 1,060.27 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 65.59 จุด หรือ 3.13% ปิดที่ 2,159.47 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะยังคงขยายตัวทั้งปีนี้และปีหน้า ขณะที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กให้คึกคักขึ้นด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดหลังจากทางการจีนระบุว่า ตลาดทองคำไม่ใช่ช่องทางการลงทุนหลักของจีน และรายงานที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกได้ขายทองคำให้กับธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,198.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,185.00 - 1,199.50 ดอลลาร์

-- ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) หลังจากนางแองเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า สกุลเงินยูโรมีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อว่าจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนเกิดวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ อย่างไรก็ตาม ยูโรดีดขึ้นในไม่มากนักหลังจากประเทศยุโรปเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ค่าเงินยูโรดีดขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.2635 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2623 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5192 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5150 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 87.740 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 87.550 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.70% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0514 ฟรังค์ จากระดับ 1.0588 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8652 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร 0.8528 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7039 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6941 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) จาแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารในยุโรปจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นบีพีดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่ากองทุนในกลุ่มตะวันออกกลางอาจเข้าลงทุนในบีพี นอกจากนี้ การคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสเตท สตรีท คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทการเงินของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนหุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษทะยานขึ้นด้วย

ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 49.82 จุด หรือ 1.0% ปิดที่ 5,014.82 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ