"ไตรรงค์"ส่อยุบ 7 รสก.ที่ขาดทุนต่อเนื่อง หากแผนฟื้นกิจการยังไร้อนาคต

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 8, 2010 18:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ(กนร.) เห็นชอบที่จะไปดำเนินการติดตามแผนงานธุรกิจ เพื่อพลิกฟื้นกิจการของรัฐวิสาหกิจรวม 7 แห่งที่อยู่ในข่ายการขาดทุนต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน โดยยอมรับว่ามีความเป็นได้ที่อาจต้องยุบเลิกองค์การถ้าหากไม่สามารถพลิกฟื้นกิจการได้

"7 แห่ง มีโอกาสยุบไปเลย องค์กรไหนถ้าไปไม่ไหวก็ต้องเลิก เพราะสิ้นเปลืองงบประมาณ และไม่ใช่เฉพาะรัฐวิสาหกิจเท่านั้น องค์กรมหาชน ผมก็สั่งให้ กนร.ไปตรวจสอบ" นายไตรรงค์ กล่าว

สำหรับรัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วย องค์การสะพานปลา, องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร, องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย, องค์การคลังสินค้า, องค์การการตลาด และบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ใน 7 องค์กรนี้ ที่ประชุมมีมติให้สำนักรัฐวิสาหกิจ(สนร.) เรียกประชุมทั้ง 7 หน่วยงาน เพื่อสอบถามถึงความก้าวหน้าในแต่ละองค์กรถึงการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ และให้ทั้ง 7 องค์กรรายงานกลับมายังคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่ายังจำเป็นต้องติดตามการดำเนินงานอีก 5 องค์กร แม้ว่าเดิมจะเคยขาดทุนแล้วกลับมามีผลกำไรก็ตาม แต่จำเป็นต้องดูแลสถานะขององค์กรว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด คือ บมจ.การบินไทย(THAI), การเคหะแห่งชาติ(กคช.), บมจ.ทีโอที, บมจ.กสท.โทรคมนาคม และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)

นายไตรรงค์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กนร.ยังได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปติดตามความคืบหน้าโครงการที่ให้เอกชนเข้าร่วมงานในกิจการท่าเรือแหลมฉบัง โดยเฉพาะกรณีของบริษัท ฮัทชินสัน ซึ่งได้รับสัมปทานในการก่อสร้างท่าเรือในแหลมฉบัง 6 ท่า จาก 13 ท่า ซึ่งบริษัทฯ ได้ขอขยายระยะเวลาในการก่อสร้างท่าเรือทั้ง 6 ท่าออกไป

ดังนั้นคณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปติดตามว่าการขยายเวลาดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ หรือไม่ รวมถึงการขอแก้ไขสัญญาที่ต้องการให้ขยายเวลาก่อสร้างออกไปนั้น จะสามารถทำได้หรือไม่ และตรวจสอบด้วยว่าเรื่องนี้จะทำให้รัฐเสียประโยชน์ด้วยหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ