FED เผยยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ค.ร่วงลงเกินคาด $9.1 พันล้าน

ข่าวต่างประเทศ Friday July 9, 2010 08:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินผู้บริโภคในสหรัฐเดือนพ.ค.ร่วงลง 9.1 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคจำนวนมากลังเลที่จะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงอ่อนแอ

นอกจากนี้ เฟดยังได้ทบทวนยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในเดือนเม.ย. เป็นลดลง 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับระบุว่า ยอดการขอสินเชื่อผ่านบัตรเครดิตลดลง 7.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ส่วนยอดการขอสินเชื่อในด้านอื่นๆ รวมถึงสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อการซื้อรถบ้านเคลื่อนที่ (mobile home) ลดลง 1.8 พันล้านดอลลาร์

ผู้บริโภคของสหรัฐกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินลดลงเป็นเวลาติด 15 เดือน เนื่องจากภาคครัวเรือนต้องรับเข็มขัดเพื่อการอยู่รอดในยามที่เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนและตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัว โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนมิ.ย. ร่วงลง 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 110,000 ตำแหน่ง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้แสดงความกังวลว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องนั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ