เศรษฐกิจยุโรปกลาง-ตะวันออก มีแนวโน้มเป็นผู้นำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป

สถาบันศึกษาเศรษฐกิจระหว่างประเทศแห่งเวียนนา (WIIW) คาดการณ์ว่า ภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปโดยรวม เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคง

ในการแถลงรายงานคาดการณ์ประจำฤดูร้อน มาริโอ โฮลซ์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญจาก WIIW กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะประเทศที่ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนอย่างน้อย 1 ใน 4 ของจีดีพี มีแนวโน้มฟื้นตัวมากกว่าประเทศอื่น

เศรษฐกิจตุรกี รัสเซีย และยูเครน มีอัตราการขยายตัวมากกว่าประเทศอื่น โดยขยายตัว 6.3%, 4.0% และ 3.8% ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เข้าสู่ช่วงฟื้นตัวแล้ว

แต่สำหรับประเทศลัทเวียคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวติดลบ 3.5% ขณะที่ลิทัวเนียและโครเอเชียคาดว่าจะติดลบ 1.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตาม WIIW คาดการณ์ว่าตลาดแรงงานยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกจะซบเซาที่สุดในปีนี้ โดยเอสโตเนีย ลัทเวีย ลิทัวเนีย และสโลวาเกีย จะมีอัตราว่างงานมากที่สุด

นอกจากนั้นอัตราว่างงานเฉลี่ยในภูมิภาคดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจาก 8.5% ในปีที่แล้ว แตะที่ 10.8% ในปีนี้ แต่ในปีหน้าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ 10% และอาจลดลงอีกจนเหลือ 8.6% ในปี 2555

สำหรับดีมานด์ในประเทศยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกคาดว่าจะดีขึ้นพอสมควรในปีนี้ หลังจากที่ในปีที่แล้วมีเพียงโปแลนด์และตุรกีที่การบริโภคภาคเอกชนมีการขยายตัว ขณะที่ในเอสโตเนีย ลัทเวีย และลิทัวเนีย ร่วงลงเกือบ 30% ในหลายไตรมาส

วาสิลี แอสตรอฟ ผู้เชี่ยวชาญจาก WIIW กล่าวว่า บางประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกมีตัวเลขขาดดุลบัญชีเพิ่มขึ้นเพราะมีรายได้จากการเก็บภาษีลดลง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลมีความสามารถในการใช้จ่ายลดลง และในบางกรณีก็ส่งผลกระทบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้เงินทุนหมุนเวียนในภูมิภาคลดลง

แอสตรอฟเชื่อว่าประเทศยุโรปอาจต้องใช้เวลาเฉลี่ยถึง 10 ปีในการหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวของสหภาพยุโรปช้าลง

ถึงกระนั้น WIIW ก็คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของ 10 ประเทศยุโรปใหม่จะขยายตัวเฉลี่ย 1.2% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเศรษฐกิจของ 15 ประเทศยุโรปเก่าอยู่ 0.3% ปละในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจประเทศยุโรปใหม่จะขยายตัว 2.7% มากกว่าประเทศยุโรปเก่าอยู่ 1.1% สำนักข่าวซินหัวรายงาน