นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูล ภายใต้โครงการความร่วมมือในการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลระหว่างหน่วยงาน โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เป็นผู้ดำเนินโครงการ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 3 กระทรวงใช้ฐานข้อมูลร่วมกันได้ เพื่อสนับสนุนการจัดหากำลังคน และจัดเตรียมกำลังคนให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้มากขึ้น
“ภาคอุตสาหกรรมเป็นหัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยมีสัดส่วนต่อ GDP ประมาณร้อยละ 40 มีตัวเลขการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปีละหลายแสนล้านบาท ซึ่งจากการพบปะผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน หรือมีแรงงานที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะงาน เมื่อรับเข้าทำงานแล้วต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มทักษะก่อนปฏิบัติงานได้จริง ซึ่งถือเป็นการเสียเวลา เสียโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทไปอย่างน่าเสียดาย"นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ดังนั้น การร่วมมือกันทั้ง 3 กระทรวงจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างลงตัว โดยกระทรวงแรงงานจะได้รับข้อมูลความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและจัดหาแรงงานหรือสนับสนุนแรงงานให้มีฝีมือ มีทักษะที่จะไปขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการเมื่อได้รับทราบข้อมูลความต้องการแรงงานแล้วจะสามารถพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือในมิติใหม่ ที่จะทำให้ทั้ง 3 กระทรวงรับทราบข้อมูลในเชิงลึกระหว่างหน่วยงานเพื่อนำไปต่อยอดสู่การวางแผนโนบายที่ตรงจุด กระทรวงศึกษาถือเป็นระดับต้นน้ำเมื่อรับทราบทิศทางแล้วการวางนโยบายด้านการศึกษาการจัดเตรียมหลักสูตรการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมก็จะง่ายขึ้น ปัญหาการผลิตกำลังคนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในบางสาขา หรือล้นตลาดในบางสาขาจะหมดไป