สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้หดตัวลง 42.5% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 5.53 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 35.2% สู่ระดับ 7.0509 แสนล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 52.7% สู่ระดับ 6.4979 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนมูลค่าการค้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 มีอยู่ทั้งสิ้น 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 43.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากยอดนำเข้าและมูลค่าการค้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิ.ย. โดยยอดส่งออกในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 43.9% สู่ระดับ 1.374 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 34.1% สู่ระดับ 1.11737 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้จีนมีมูลค่าการค้าโดยรวม 2.5477 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือนมิ.ย.ขยายตัว 15.1% สู่ระดับ 2.4543 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินยูโรหดตัวลงได้ส่งผลให้มูลค่าในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปรับตัวลดลงด้วย
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 7.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ขยยตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
-- นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.จะลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยนักวิเคราะห์จากเซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์ คาดว่าดัชนี CPI เดือนมิ.ย.จะขยายตัว 3.4 - 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน