(เพิ่มเติม) โตโยต้า เผยยอดขายตลาดรถยนต์ในประเทศ มิ.ย.โต 62.6% มาที่ 70,557 คัน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 14, 2010 13:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสถิติการขายรถยนต์เดือนมิถุนายน 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 70,557 คัน เพิ่มขึ้น 62.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 37,611 คัน เพิ่มขึ้น 52.5% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 31,327 คัน เพิ่มขึ้น 46.7%

"ตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน มีปริมาณการขาย 70,557 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายของเดือนมิถุนายน และมีอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา" นายวุฒิกร กล่าว

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดรถยนต์นั่งที่มีปริมาณการขาย 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7% ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งยังมีส่วนหนึ่งที่ค้างส่งมอบและได้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา

ประกอบกับตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 52.5% เป็นอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัว ตลอดจนบรรยากาศทางการเมืองที่คลี่คลายได้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 6 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 356,692 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่โดยมีปริมาณการขายสูงกว่ายอดขายสะสม 6 เดือนแรกของปี 2548 กว่า 10,700 คัน ซึ่งในปี 2548 มียอดขายรวมทั้งปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 703,432 คัน และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยเป็นการเติบโตที่ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ทั้งนี้ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 59.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.3% สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่ทยอยแนะนำเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งบางรุ่นยังคงมียอดค้างส่งมอบแม้ว่าจะได้มีปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทรถยนต์ต่างๆ ประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และราคาสินค้าทางการเกษตรอาทิ ยางพารา และ มันสำปะหลังที่ดีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ