ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ หลัง FED หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 15, 2010 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงได้แรงหนุนจากความสำเร็จในการประมูลตั๋วเงินคลังของรัฐบาลกรีซ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.2738 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2726 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5173 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.250 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 88.670 เยน และร่วงลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0530 ฟรังค์ จากระดับ 1.0542 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8824 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8831 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7188 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 9.2 - 9.5% ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.1 - 9.5%

เฟดระบุในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง แต่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอ จึงอาจทำให้ทางการสหรัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับภาวะดังกล่าว ขณะเดียวกันเฟดกล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวปานกลางไปจนถึงปีหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบในเชิงบวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ภาพความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐปรากฏชัดขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ลดลง 0.5% หลังจากที่ร่วงลง 1.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 0.2% เนื่องจากยอดขายยานยนต์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง

ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงติดต่อกันสองเดือนซ้อนทำให้นักลงทุนกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่แข็งแกร่งและยั่งยืน เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแม้อ่อนตัวลง แต่ก็สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ หลังจากมีรายงานว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียประจำเดือนก.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากภาคครัวเรือนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

ค่าเงินยูโรยังคงได้แรงหนุนหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลกรีซประสบความสำเร็จในการนำตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนออกประมูล ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถระดมทุนจากตลาดได้สูงถึง 1.625 พันล้านยูโร หรือ 2.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยอัตราผลตอบแทน 4.65% สูงกว่าที่เคยเปิดประมูลตั๋วเงินคลังครั้งก่อนที่ระดับ 4.55% นอกจากนี้ รัฐบาลกรีซยังวางแผนที่จะเปิดประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนในวันที่ 20 ก.ค.นี้

รัฐบาลกรีซกล่าวว่า การประมูลตั๋วเงินคลังในครั้งนี้จะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ โดยระบุว่าจำนวนผู้ที่ยื่นความจำนงในการประมูลตั๋วเงินคลังมีอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจซื้อตั๋วเงินคลังของกรีซ นอกจากนี้ ความสำเร็จในการประมูลตั๋วเงินคลังจะเป็นการปูทางให้กรีซจะสามารถกลับมาผงาดในตลาดโลกได้อีกครั้งในปีหน้า

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์กจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ค.รวมทั้งข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.และกระทรวงการคลังจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ