World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 15, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดแสดงความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและอาจต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่ร่วงลงอย่างหนักของสหรัฐด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 3.70 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 10,366.72 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.17 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 1,095.17 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 7.81 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 2,249.84 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ และระบุว่าสหรัฐอาจต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่ร่วงลงอย่างหนักของสหรัฐด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 11 เซนต์ ปิดที่ 77.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.04 - 76.50 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากภาวะการซื้อขายที่อ่อนแอในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 6.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,207.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1216.3 - 1206.0 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงได้แรงหนุนจากความสำเร็จในการประมูลตั๋วเงินคลังของรัฐบาลกรีซ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.2738 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2726 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5173 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.250 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 88.670 เยน และร่วงลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0530 ฟรังค์ จากระดับ 1.0542 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8824 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8831 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7188 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ก่อนที่ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังถูกกดดันหลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทอินเทล

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 17.50 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,253.52 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ