เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันการลงทุนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 163 ล้านล้านรูเปียห์ (1.809 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ในปีนี้ เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในประเทศเริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
กิตา วีร์จาวาน ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานการลงทุน (BKPM) กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลอินโดนีเซียต่อแผนเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศ
หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์ รายงานอ้างคำกล่าวของกิตาว่า "นักลงทุนเริ่มเล็งเห็นถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขึ้นและค่อนข้างพอใจกับบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ พร้อมทั้งเสริมว่ารัฐบาลมีความสามารถในการปรับนโยบายเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีมากขึ้นด้วย"
ทั้งนี้ แผนงานหรือพิมพ์เขียวที่ออกโดย BKPM ระบุว่า รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายด้านการลงทุนในแต่ละปีไว้ที่ประมาณ 200-300 ล้านล้านรูเปียห์ (สูงกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และตั้งเป้ากระตุ้นการลงทุนในประเทศและการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศโดยรวมที่ 1,500 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 1.657 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งเชื่อว่าการลงทุนจะเป็นไปตามเป้าที่ 450 ล้านล้านรูเปียห์ (4.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยบรรดานักลงทุนเงินหนาจะมาจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและประเทศในเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย
นอกจากนี้ การปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้และพันธบัตรของอินโดนีเซียจะช่วยสร้างปัจจัยหนุนต่อแนวโน้มการลงทุนในประเทศด้วยเช่นกัน โดยสถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ Japan Credit Rating Agency ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของอินโดนีเซียจากระดับ BB+ สู่ระดับ BBB- และปรับเพิ่มตราสารหนี้สกลุเงินในประเทศระยะยาวจาก BBB- สู่ระดับ BBB สำนักข่าวซินหัวรายงาน