ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ ขณะนักลงทุนวิตกแนวโน้มศก.สหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Friday July 16, 2010 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 1.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2914 ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.2740 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5442 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5258 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.03% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 87.530 เยน จากระดับของวันพุธที่ 88.440 เยน และดิ่งลง 0.97% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0421 ฟรังค์ จากระดับ 1.0523 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8836 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.8842 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.76% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7292 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7237 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพราะขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวในระดับปานกลาง แต่สหรัฐอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง

ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2555 จะขยายตัวราว 3.5 - 4.5% ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในสหรัฐว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.2 - 9.5% ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.1 - 9.5%

นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวอยู่ที่ 74.1% นอกจากนี้ เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 5.1 จุดในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 8.0 จุด ซึ่งข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 29,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 429,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนคนว่างงานปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าตลาดแรงงานยังเป็นความท้าทายหลักสำหรับคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาและพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.นี้ นอกจากนี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน พร้อมกับเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์สหรัฐเพิ่มปริมาณการปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงาน

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. และข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติประจำเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ