คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เปิดเผยว่า โกลด์แมน แซคส์ แอนด์ โค ซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ ยอมจ่ายค่าปรับ 550 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีแพ่งในข้อหาปิดบังข้อมูลที่สำคัญแก่นักลงทุนเกี่ยวกับตราสารหนี้ "ABACUS 2007-AC1" ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ ตราสารซีดีโอ (collateralized debt obligation)
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาคการเงิน เพื่อบังคับใช้กฎเกณฑ์กับธนาคารและบริษัทการเงินในวอลล์สตรีทที่เข้มงวดที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง หรือ Great Depression
ข้อตกลงในครั้งนี้ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 535 ล้านดอลลาร์ และค่าธรรมเนียมชดเชยความเสียหายอีก 15 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 550 ล้านดอลลาร์ โดยจะมอบให้กับรัฐบาลสหรัฐ 300 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 250 ล้านดอลลาร์จะมอบให้กับธนาคารพาณิชย์ 2 แห่งที่ได้รับความเสียหายจากตราสารหนี้ ABACUS 2007-AC1
บทลงโทษครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่ SEC ดำเนินการต่อบริษัทในวอลล์สตรีท แต่จำนวนที่โกลด์แมน แซคส์ จ่ายค่าปรับในครั้งนี้ ยังน้อยกว่ารายได้สุทธิในปี 2552 ของโกลด์แมน แซคส์ ที่ระดับ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ของ SEC มีขึ้นก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) แต่ในระหว่างการซื้อขายนั้นได้มีข่าวรั่วออกมาก่อนแล้วว่า โกลด์แมน แซคส์ สามารถยอมความกับ SEC ได้ จึงช่วยให้ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดพุ่งขึ้น 6.16 ดอลลาร์ แตะที่ 145.22 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา SEC ยื่นฟ้องโกลด์แมน แซคส์ รวมทั้งนายฟาบรีซ ตูร์เร รองประธานของโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียกว่า "ABACUS 2007-AC1" โดยระบุว่า โกลด์แมนไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับ ABACUS 2007-AC1 ต่อนักลงทุน และไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบความจริงเกี่ยวกับการที่บริษัท พอลสัน แอนด์ โค มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ตลงทุนดังกล่าว
พอลสัน แอนด์ โค สามารถทำกำไรได้หลายพันล้านดอลลาร์จากการคาดการณ์ที่ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะทรุดตัวลง แต่การเก็งกำไรในลักษณะดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายอื่นๆเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหนึ่งในลูกค้าก็คือธนาคารไอเคบี ของเยอรมนี และธนาคารเอบีเอ็น อัมโร ของเนเธอร์แลนด์
ตราสารซีดีโอ คือตราสารหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน ผู้ออกตราสารซีดีโอซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนาคารหรือสถาบันการเงิน จะนำสินทรัพย์ที่ตนเองมีอยู่ เช่น สินเชื่อจำนองบ้าน มารวมกลุ่มกันก่อนจะจัดโครงสร้างตามเกรด แล้วเสนอขายให้ผู้ลงทุน แม้จะมีความซับซ้อนสูง แต่ซีดีโอก็ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐเติบโตถึงขีดสุดในช่วงปี 2543- 2550 ก่อนที่ภาวะฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จะแตก และสร้างความเสียหายในวงกว้าง
การที่ SEC ฟ้องดำเนินคดีกับโกลด์แมน แซคส์ ครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตการณ์รุนแรงสุดในรอบหลายปีของโกลด์แมน แซคส์ และยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่โกลด์แมน แซคส์ เผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจและการจ่ายผลตอบแทน นอกจากนี้ คดีความดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐเดินหน้าใช้กฎหมายปฏิรูปภาคการเงิน โดยเมื่อวานนี้วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 39 อนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาคการเงินของสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการยกเครื่องระบบการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับจากทศวรรษที่ 1930 โดยมีเป้าหมายควบคุมความเสี่ยงของบริษัทการเงินในวอลล์สตรีท และป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้เผชิญกับวิกฤตการณ์การเงิน