นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมายให้มีรถยนต์ อี85 ใช้ในประเทศ 20% ของรถยนต์ใหม่ที่ใช้ในประเทศ ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีรถยนต์ใหม่ประมาณ 5 แสนคัน/ปี
โดยระหว่างนี้ได้เตรียมแผนส่งเสริมเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ E85 หรือ FFV ภายในประเทศ และลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 และลดภาษีสรรพสามิต 3% โดยกระทรวงพลังงานจะเสนอให้มีการอนุมัติรายการลดภาษีชิ้นส่วนอีก 15 รายการ จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว 8 รายการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลัง ทั้งนี้หากเป็นไปตามเป้าหมายจะสามารถช่วยสร้างรายได้เกษตรกร และเงินใช้จ่ายด้านพลังงานจะตกอยู่ในประเทศ เพราะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศลง
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในระยะ 5-10 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกเฉลี่ยจะอยู่ที่ 75-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่เป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น หากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป จะส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และเกิดปัญหาการแย่งใช้น้ำมัน ประกอบกับแหล่งน้ำมันในต่างประเทศเริ่มลดน้อยลง ดังนั้นการส่งเสริมใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะ E85 จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการทันที