นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนกล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งอันเนื่องมากจากการบังคับใช้มาตรการด้านเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า จีนต้องรักษาระดับความต่อเนื่องและความมีเสถียรภาพของนโยบายทางเศรษฐกิจมหภาคเช่นนี้ต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจต่อปัจจัยภายนอกที่จะเอื้อประโยชน์ต่อภาคเอกชน
นายเหวินกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัว แม้ว่าอัตราการฟื้นตัวจะอ่อนกำลังลง ขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็มีความไม่แน่นอนอยู่มาก ดังนั้น จีนควรกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ควบคู่กับการสร้างเสถียรภาพด้านอุปสงค์จากภายนอก
-- นายหวัง ชิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียของมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้กว่า 10% ในปีนี้ แต่คาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนจะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปีนี้จะขยายตัวได้ราว 10% ส่วนเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะขยายตัวอยู่ที่ 9% หรือน้อยกว่านั้น
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดในช่วงเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.5 - 3.6% ส่วนดัชนี CPI ตลอดทั้งปีนี้อาจอยู่ที่ประมาณ 3%
-- อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน และลดระดับการเคลื่อนไหวตามเงินดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่จีนเริ่มดำเนินนโยบายปฏิรูปเงินหยวนเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนตั้งเป้าปฏิรูปกลไกด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน แทนการยึดแนวทางการตรึงอัตราเงินหยวนที่แข็งค่า
-- ศูนย์สารนิเทศแห่งรัฐของจีนคาดการณ์ว่า ยอดนำเข้าและส่งออกของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยยอดส่งออกของจีนในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 24.5% ขณะที่ยอดนำเข้าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 33.6% สำนักข่าวซินหัวรายงาน