คณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย-มณฑลกวางตุ้งครั้งที่ 1 เห็นชอบร่วมกันที่จะกำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงานความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในช่วง 1 ปีข้างหน้า จำนวน 6 สาขา ได้แก่ เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2554 เพิ่มขึ้น 10% จากมูลค่าการค้าในปี 2553 และจัดให้มีจุดประสานงานร่วมเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการค้าระหว่างกัน, สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการเกษตร รวมถึงนักวิจัยและเกษตรกร, ส่งเสริมให้มีการลงทุนระหว่างกันในด้านต่าง ๆ และร่วมกันจัดสัมมนาด้านการลงทุนร่วมกัน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง, ส่งเสริมให้กำหนดจุดประสานงานร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน, สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าต่าง ๆ ของไทยกับองค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของมณฑลกวางตุ้ง และสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนครูและนักเรียน และการร่วมมือกันด้านการป้องกันโรคระบาด
โดยทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาและทบทวนผลการดำเนินงานอีกครั้งในปี 2554 ซึ่งมณฑลกวางตุ้งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งในการประชุมครั้งแรกมีนายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานคณะทำงานฯ ฝ่ายไทย และนายว่าน ชิ่งเหลียง รองผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งและนายกเทศมนตรีนครกวางโจว เป็นประธานคณะทำงานฝ่ายมณฑลกวางตุ้ง
"ประเทศไทยและมณฑลกวางตุ้งจะเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยใช้กลไกคณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย-มณฑลกวางตุ้ง" นายธีรกุล กล่าว
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า มณฑลกวางตุ้งจะให้ความร่วมมือกับไทยประชาสัมพันธ์และนำเข้าผลไม้ไทยมากขึ้น ในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่นครกวางโจว ในเดือน พ.ย.53 ซึ่งจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จำนวน 14,000 คน จาก 45 ประเทศเอเชีย รวมทั้งกองเชียร์และนักท่องเที่ยวอีกราว 10 ล้านคนที่จะไปร่วมชมการแข่งขันฯ
จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ของไทย เฉพาะที่มณฑลกวางตุ้ง มีประชากรจำนวน 95 ล้านคน โดยมณฑลกวางตุ้งเป็นจุดนำเข้าสินค้าไทยมากถึง 1 ใน 3 ของปริมาณสินค้าไทยทั้งหมดที่ส่งไปจีน และ 70-80% ของสินค้าเกษตรของไทย ได้แก่ ข้าว ผลไม้ ยางพารา และมันสำปะหลัง เข้าสู่จีนทางมณฑลนี้ นอกจากนี้ ชาวกวางตุ้งยังเป็นชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะที่ ในปี 2552 นักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับ 3 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมดของไทย