นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานเสวนา"แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง 53" ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก แต่อัตราการเติบโตจะไม่สูงเท่ากับครึ่งปีแรก โดยปัจจัยหนุนมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง แม้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนปัจจัยในประเทศได้รับปัจจัยหนุนจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/53 ยังเติบโตได้ แต่อัตราคงไม่เท่าไตรมาสแรก เพราะฐานปีก่อนติดลบ
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตา 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลก คือ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังมีปัญหาการว่างงานสูง และธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ปล่อยกู้ระหว่างธนาคารด้วยกัน ขณะที่สิทธิประโยชน์จากทางด้านการคลังจะเริ่มลดลง เนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังทำได้ยากขึ้น จากปัญหาความกังวลหนี้สาธารณะ ทางยุโรปมีปัญหาหนี้สาธาระที่ต้องตัดทอนการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้การโตของเศรษฐกิจช้าลง รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่อาจจะชะลอลง จากมาตรการความร้อนแรงของเศรษฐกิจในประเทศ
“ปัญหาเหล่านี้กระทบต่อเศรษฐกิจชะลอลง แต่จะมากกว่าที่เราคาดหรือเปล่า ก็ต้องติดตามต่อไป แต่โดยรวมแล้วยังเป็นภาพของการฟื้นตัวอยู่ ขณะที่ปัจจัยหนุนในประเทศเอง ก็ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพในการปรับตัวสูง ตอนนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้วจากชะลอใน พ.ค.ซึ่งการท่องเที่ยวมีสัดส่วน 8-9% ของจีดีพี" นายบัณฑิต กล่าว
ขณะนี้เศรษฐกิจเอเชียเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายตอนนี้คือเศรษฐกิจโลก แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มประเทศเอเชียที่ขยายตัวดี กับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้เงินไหลเข้าภูมิภาคและไทย ทำให้ตลาดหลักทรัพย์โตขึ้น แต่อาจจะเป็นการสร้างความเปราะบางของการฟื้นตัวของปัญหาฟองสบู่ ซึ่ง ธปท.จะติดตามดูแลเรื่องปัญหาเงินทุนไหลเข้าไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้เรียนรู้จากเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ที่มีปัญหาหนี้ในยุโรป และปัญหาซับไพร์ม
นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า จุดเด่นของเศรษฐกิจไทยในปี 53 คือ การกระจายตัวของเศรษฐกิจทุกภาคธุรกิจ บริษัที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ผลประกอบการก็ออกมาดีในไตรมาสแรก ยกเว้นเรื่องการท่องเที่ยว และตอนนี้อุตสหากรรมก่อสร้าง การเกษตร ก็เติบโตแบบกระจายตัว ดังนั้นในช่วงที่เศรษฐกิจขาขึ้น ความต้องการสินเชื่อจะมีมากขึ้น ธนาคารพาณิชย์ก็จะได้ประโยชน์ การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อระดมสภาพคล่องไปปล่อยกู้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธนาคารที่มองเศรษฐกิจปี 53 ดีขึ้นมากๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดี แต่อยากให้ตระหนักตัวเลขเศรษฐกิจโลก เพราะว่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้มากขึ้น เป็นเรื่องดี แต่อาจเป็นสาเหตุทำให้ประเทศมีปัญหา ก่อหนี้เกินตัว แต่ว่าตอนนี้มองไม่เห็นสัญญาณนี้ในไทย แต่ควรตระหนักไว้ก่อน