นักวิเคราะห์มองว่า เหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันระเบิดที่เมืองต้าเหลียนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันกลั่นในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทน้ำมันของจีนหลายแห่งได้ลดปริมาณการขนส่งน้ำมันจากต้าเหลียนไปยังมณฑลอื่นๆที่อยู่ทางใต้ เนื่องจากท่าเรือที่เมืองต้าเหลียนนั้นถูกปิดทำการเป็นบางส่วน หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ
เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่อส่งน้ำมันดิบ 2 ท่อที่ท่าเรือซินกังในเมืองต้าเหลียนได้ระเบิดขึ้น และทำให้น้ำมันรั่วไหลออกมา ทางการต้องเข้าควบคุมการจราจรทางน้ำในระหว่างที่มีการทำความสะอาดคราบน้ำมัน
ชู เจียหวาง นักวิเคราะห์ของซีวัน เอ็นเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการข้อมูลในอุตสาหกรรมน้ำมัน กล่าวว่า การขนส่งน้ำมันจากทางเหนือไปยังพื้นที่ทางใต้ของบริษัทปิโตรไชน่าจากท่าเรือต้าเหลียนนั้น ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งปกติการขนส่งน้ำมันของบริษัทจะอยู่ที่ 30,000 - 50,000 ตันต่อวัน
ส่วนโรงกลั่นในภาคใต้ของจีนก็ลดการดำเนินการลง และหันมาแปรรูปน้ำมันสำรอง ขณะที่โรงกลั่นอย่างน้อย 3 แห่งของไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป (CNPC) ได้ลดปริมาณการขายน้ำมันกลั่นในมณฑลที่อยู่ทางใต้ลง
ทั้งนี้ สำรองน้ำมันของต้าเหลียนตั้งอยู่ในใจกลางของฐานการผลิตน้ำมันดิบของจีนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นหนึ่งในฐานอุตสาหกรรมน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ขณะที่ท่าเรือต้าเหลียนก็เป็นท่าเรือนำเข้าน้ำมันดิบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า สำรองน้ำมันในมณฑลทางใต้ของจีนยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก และผลกระทบจากการขนส่งน้ำมันที่ลดลงจนถึงขณะนี้ก็อยู่ในระดับที่ไม่มากเท่าไรนัก โดยชูกล่าวว่า สำรองน้ำมันเหล่านี้สามารถใช้งานได้นาน 10 วัน ดังนั้นราคาน้ำมันในมณฑลทางใต้จึงยังอยู่ในภาวะที่มีเสถียรภาพ และถ้ามองในแง่ดี การขนส่งน้ำมันที่ชะลอตัวลงจะเป็นโอกาสให้มณฑลทางใต้มีโอกาสที่จะลดสำรองที่มีอยู่เป็นจำนวนมากเกินไปลง