กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงานในหัวข้อ "Central Banking Lessons from the Crisis" ซึ่งกล่าวถึงบทเรียนที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ควรเรียนรู้จากวิกฤตการเงินโลกซึ่งเริ่มต้นเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว
วิกฤตการเงินโลกซึ่งเกิดจากการขาดสภาพคล่องในระบบธนาคารสหรัฐ ส่งผลให้สถาบันการเงินรายใหญ่หลายแห่งล่มสลาย รัฐบาลหลายประเทศต้องเข้าไปอุ้มธุรกิจธนาคาร ขณะที่ตลาดหุ้นก็ร่วงลงทั่วโลก ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่านี่เป็นวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เมื่อช่วงทศวรรษ 1930
ธนาคารกลางของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจพยายามใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับวิกฤตที่เกิดขึ้น อย่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ลดดอกเบี้ยจนแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน
ในรายงานดังกล่าวระบุว่า บทเรียนสำคัญที่ได้จากวิกฤตการเงินโลกมีอยู่ 3 ประการ ได้แก่ ประการแรก ไอเอ็มเอฟเชื่อว่าความมั่นคงทางการเงินควรเกิดขึ้นจากการใช้นโยบายระดับมหภาคเป็นหลัก เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโดยรวม ซึ่งนโยบายดังกล่าวประกอบด้วย การจัดการให้มีเงินกองทุนขั้นต่ำ การตั้งเป้าสัดส่วนหนี้เสียล่วงหน้า การกำหนดอัตราส่วนสภาพคล่อง และการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ เป็นต้น
ประการที่สอง ไอเอ็มเอฟยืนยันว่าความมั่นคงด้านราคาควรยังเป็นจุดมุ่งหมายหลักของนโยบายการเงิน
ประการที่สาม ไอเอ็มเอฟเชื่อว่าธนาคารต่างๆจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารสภาพคล่องและแนวทางการรับมือกับวิกฤต ซึ่งรวมถึงสภาวะภัยทางศีลธรรม (moral hazard) ด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน