เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ"
เบอร์นันเก้กล่าวว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐขยายตัวในอัตรา 4% ต่อปี ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว จากนั้นก็ขยายตัวขึ้นอีก 2.75% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวอีกในระดับปานกลางในไตรมาส 2 เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนปรับเพิ่มสินค้าในสต็อก รวมทั้งการขยายตัวของอัตราการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล และอัตราการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนปัจจัยภายนอกนั้น เบอร์นันเก้ระบุว่า ยอดการส่งออกของสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้น ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตสินค้าภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวของดีมานด์ภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะตัวเลขการก่อสร้างบ้านที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ที่หดตัวลง ขณะที่จำนวนบ้านที่ยังไม่ปิดดีลการขายก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านและกลุ่มผู้ซื้อบ้านก็ยังคงประสบความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้
เบอร์นันเก้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ" อันเป็นผลมาจากภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงตกต่ำ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาคครัวเรือนจับจ่ายใช้สอยน้อยลงและทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะที่เปราะบางมาก
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวเพียงระดับปานกลางเท่านั้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยการจ้างงานในภาคเอกชนโดยเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ตำแหน่งต่อเดือน ซึ่งยังไม่มากพอที่จะทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงได้ โดยอัตราว่างงานโดยเฉลี่ยในไตรมาส 2 ของปีนี้ยืนอยู่ที่ระดับ 9.75%
เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในสหรัฐว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.2 - 9.5% ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.1 - 9.5%
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้ยืนยันว่าจะใช้มาตรการฟื้นฟูเพิ่มเติมหากเศรษฐกิจส่งสัญญาณการเข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมกับกล่าวว่า เฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"เฟดจะยังคงประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างระมัดระวัง และเฟดยังคงพร้อมที่จะใช้นโยบายที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้เหมือนเดิม" เบอร์นันเก้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน