นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มั่นใจภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวในระดับ 6% ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังกระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออกในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาขยายตัวมากถึง 46.3% ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.)ขยายตัว 36.6% แต่ยอมรับยังกังวลจะได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้เสียในสหภาพยุโรปและปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ
"ผมคิดว่าเราได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวกลับมาทำให้มีแรงซื้อของเราสูงขึ้น และแสดงถึงความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของเรา ทำให้อัตราการขยายตัวเป็นไปได้ด้วยดี และตัวเลขส่งออกไม่น่าจะเป็นปัญหา...(จีดีพีปีนี้ขยายตัว)6 เปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นไปได้ ถ้าหากประคับประคองไม่ให้มีผลกระทบ ส่วนสำคัญคือเศรษฐกิจโลกในยุโรปและทางด้านการเมือง" นายอภิสิทธิ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปตามปกติเหมือนปัจจุบันก็ถือว่าไม่มีปัญหา ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด และมอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับบางประเทศถึงการใช้อำนาจตามกฎหมายดังกล่าว อีกทั้งมั่นใจว่าหากมีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้