นายโรเบิร์ต โซลลิก ประธานธนาคารโลกเปิดเผยว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ประชาชนกว่า 60 ล้านคนกลายเป็นคนยากจน พร้อมกับเตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะเปราะบางและไม่แน่นอน
นายโซลิกแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างแถลงข่าวการทำข้อตกลงการปล่อยเงินกู้มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ให้กับเม็กซิโก เพื่อเป็นทุนในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานและดำเนินโครงการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"แม้เศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัว แต่ก็ยังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน และเปราะบางมากด้วย" นายโซลิกกล่าว
ทั้งนี้ ประธานธนาคารโลกประมาณการณ์ว่า ประชาชนทั่วโลกกว่า 60 ล้านคนยากจนลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2551 - 2552 ซึ่งรวมถึงประชาชน 10 ล้านคนในละตินอเมริกา
ทั้งนี้ นายโซลิกเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกมุ่งเน้นเรื่องการลดต้นทุนการกู้ยืมและขจัดกำแพงการค้า เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจและการส่งออกสินค้า รวมทั้งเพิ่มการลงทุนทางด้านสาธารณูปโภคและการศึกษา
นอกจากนี้ นายโซลิกกล่าวว่าธนาคารโลกกำลังมุ่งเน้นเรื่องการรับมือกับภาวะโลกร้อน แม้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนามองว่าประเด็นการลดโลกร้อนควรเป็นเรื่องของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตาม