เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินที่ทำการซื้อขายในตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงหลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน
ด้านเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารในยุโรปในวันศุกร์นี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เงินเยนเคลื่อนไหวแตะระดับ 86.58 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 87.05 ต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้
นอกจากนี้ ณ เวลา 12:35 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับตัวลดลง 0.2% โดยมีหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลงฉุดให้ดัชนีนิกเกอิร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.55%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เงินเยนได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง ในช่วงที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาในเชิงลบต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หลังจากที่เบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดเตรียมใช้นโยบายอื่นๆ เพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ในครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่จะสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวันนี้ ได้แก่ หุ้นแคนนอน ซึ่งทรุดตัวลง 1.2% แม้ว่าบริษัทจะทำยอดขายในอเมริกาได้เพิ่มขึ้น 27% ขณะที่หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ซึ่งมีรายได้ในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 42% ก็ปรับตัวลดลง 1.1%