สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลดลง 5.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5.37 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. จากระดับ 5.66 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 9.8% จากระดับ 4.89 ล้านยูนิตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนราคากลางของบ้านมือสองอยู่ที่ระดับ 183,700 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0% จากปีที่แล้ว
ลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก NAR กล่าวว่า ยอดขายบ้านในเดือนมิ.ย.ยังคงสะท้อนถึงผลกระทบจากการใช้มาตรการลดหย่อนภาษีของรัฐบาล เนื่องจากผู้ซื้อบ้านยังคงรอเวลาการซื้อไปจนกว่ามาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในอีก 2 เดือนข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้รับอิทธิพลจากมาตรการสร้างแรงจูงใจด้านภาษีที่ผู้ซื้อบ้านใหม่จะได้รับการสิทธิประโยชน์ด้านภาษีกว่า 8,000 ดอลลาร์ ซึ่งเดิมทีรัฐบาลกำหนดวันหมดอายุของมาตรการดังกล่าวในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะตัดสินใจขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.นี้