พลเรือเอก แท็ด อัลเลน แห่งหน่วยยามฝั่งของสหรัฐ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานที่ดูแลเรื่องน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกเปิดเผยว่า พายุโซนร้อนบอนนีที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกจะส่งผลให้การปิดบ่อน้ำมันมาคอนโด (Macondo) ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมันระเบิด ต้องล่าช้าออกไปเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากที่บีพีสามารถอุดรอยรั่วที่บ่อน้ำมันไว้ได้หมดแล้ว
พายุบอนนี่ ซึ่งก่อตัวในคาริเบียนและกลายเป็นพายุในวันนี้คงจะพัดเข้าไปยังบริเวณที่ตั้งของบ่อน้ำมัน Macondo ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ขณะที่บีพีระบุว่า ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากพายุลูกนี้ส่งผลให้บริษัทต้องนำเรือที่จะทำหน้าที่ในการปิดบ่อน้ำมันออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อหลบพายุ
อัลเลน กล่าวว่า แม้ว่าการดำเนินการต่างๆจะล่าช้าออกไปอีกหลายวัน แต่ทางเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ฤดูพายุเฮอริเคนปีนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของบีพีในการกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก โดย AccuWeather Inc คาดว่า จะมีพายุที่เคลื่อนตัวอยู่ในอ่าวเม็กซิโกอย่างน้อย 3 ลูกที่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันของบีพี