(เพิ่มเติม) ธปท.ปรับคาดการณ์ GDP ปี 53 โต 6.5-7.5%จาก 4.3-5.8%,ปี 54 โต 3-5%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 23, 2010 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุด ปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้เพิ่มเป็น 6.5-7.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.3-5.8% เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะในไตรมาส 1/53 ที่ขยายตัวถึง 12% และในไตรมาส 2/53 คาดว่าจะเติบโตได้สูงกว่า 7% ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีแรกขยายตัวได้ราว 10%

ขณะที่คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 53 ปรับมาเป็น 0.5-1.3% จาก 1.0-2.0% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.5-3.8% จากเดิม 3.3-4.8%

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในปีนี้เอกชนจะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก โดยการส่งออก การบริโภค และการลงทุนที่กลับมาขยายตัวได้ดี ทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกขยายตัวสูงถึง 12% แต่ในไตรมาส 2/53 อัตราเติบโตอาจจะชะลอลงบ้างรับผลจากการเมือง แต่มองว่ายังน่าจะเติบโตได้เกิน 7% ทำให้ในครึ่งปีแรกเศรษฐกิจเติบโตถึงราว 10%

ขณะที่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจอาจเติบโตน้อยกว่าครึ่งปีแรก แต่ทั้งปีจะเติบโตราว 6.5-7.5% จากเดิมที่มองไว้ 4.3-5.8%

"GDP ที่ 6.5-7.5% เป็นตัวเลขที่แสดงถึงการฟื้นที่ตัวที่แข้มแข็งและชัดเจนมากของเศรษฐกิจไทย GDP โลกยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทำให้การส่งออกของไทยเติบโตดีไปด้วย แม้ว่าจะมองครึ่งหลังชะลอลงจากครึ่งแรก แต่ทั้งปียังโตสูงอยู่" นายไพบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ ธปท.ปรับเพิ่มคาดการณ์ในครั้งนี้ มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่เร่งตัวขึ้นเป็นผลดีต่อการส่งออกไทย และผลกระทบจากการเมืองมีจำกัด แม้ว่าการท่องเที่ยวกระทบบ้างแต่ฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่ดีของเศรษฐกิจไทย และแรงส่งสำคัญจากเศรษฐกิจโลก จะเป็นผลดีที่ทำให้เศรษฐกิจในปี 54 เร่งตัวขึ้น แต่ ธปท.ยังคงคาดการณ์ที่เติบโต 3-5%

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย คือ ภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังมีความเปราะบางทำให้ทางการระมัดระวังในการถอยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับ ปัญหาเศรษฐกิจยุโรป อาจทำให้มีความผันผวนบ้างแต่ภาพรวมก็ไม่ได้ดกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมาก

ส่วนปัญหาการเมืองภายในประเทศ แม้ว่าตอนนี้สงบในระดับหนึ่งแต่ว่าในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนอยู่ และปัญหาเรื่องมาบตาพุด ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญ เพราะกระทบต่อการลงทุนใหม่

"ตอนนี้การลงทุนเอกชนเริ่มกลับมา มีการขยายกำลังการผลิตมากขึ้นสูงกว่าปีก่อน บางอุตสาหกรรมมีการใช้กำลังผลิตเต็ม ตามการขยายตัวของการส่งออก จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ทำให้มีความจำเป็นต้องผลิตสินค้าเพิ่ม" นายไพบูลย์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในปีนี้ ที่ธปท.ปรับประมาณการใหม่ โดยเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 0.5-1.3% จาก 1-2% และเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ 2.5-3.8% จาก 3.3-4.8% เป็นผลจากมาตรการลดค่าครองชีพและการควบคุมราคาสินค้า แต่จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น

แรงกดดันจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในปี 54 เร่งตัวขึ้นอีก ธปท.จึงปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จาก 2.3-4.3% เป็น 2.5-4.5% ขณะที่คงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2-3% เพราะหมดมาตรการลดค่าครองชีพ และยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันจากากรขยายตัวของเศรษฐกิจโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ