ศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ(Social Innovation Management and Business Analysis, ABAC-SIMBA) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยประชาชนส่วนใหญ่ค้านแนวคิดในการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ของภาครัฐ เนื่องจากเห็นว่าจะยิ่งทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น เพราะขณะนี้มีภาระค่าใช้จ่ายมากอยู่แล้ว
"ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.8 ไม่เห็นด้วย เพราะภาระค่าใช้จ่ายตอนนี้มากพออยู่แล้ว ค่าครองชีพสูงขึ้น รายได้น้อยถ้าขึ้นภาษีราคาสินค้าก็จะสูงขึ้น มีปัญหาเดือดร้อนด้านค่าใช้จ่ายมากพอแล้ว รัฐบาลควรมีมาตรการจัดเก็บภาษีจากคนที่มีรายสูงมากกว่า เป็นต้น ในขณะที่เพียงร้อยละ 2.8 เท่านั้นที่เห็นด้วย เพราะจะได้นำเงินภาษีมาใช้ในการบริหารประเทศ และที่เหลือร้อยละ 25.4 ไม่มีความเห็น" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 47.2 มีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลเท่าเดิม แต่มีจำนวนมากเกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 37.2 มีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของรัฐบาลลดลง ขณะที่มีเพียงร้อยละ 15.6 มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
และที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนเกือบครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 48.8 ระบุรายได้ส่วนตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 43.7 ระบุรายได้ส่วนตัวเท่าเดิม และเพียงร้อยละ 7.5 เท่านั้นที่มีรายได้ส่วนตัวเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.0 ระบุรายได้ของทุกคนในครอบครัวช่วงเดือนที่ผ่านมารวมกันแล้วลดลง ขณะที่ร้อยละ 41.7 ระบุเท่าเดิม และมีเพียงร้อยละ 10.3 ที่ระบุว่ามีรายได้ครอบครัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เป็นผลวิจัยเชิงสำรวจในโครงการ ABAC Consumer Index ระดับครัวเรือนเรื่อง "ผู้บริโภคคิดอย่างไรต่อแนวคิดการขึ้นภาษี(VAT) โดยรัฐบาล" ซึ่งจัดทำขึ้นจากการสำรวจความเห็นจากประชาชนจาก 12 จังหวัด จำนวน 2,250 ราย ระหว่างวันที่ 16-24 ก.ค.ที่ผ่านมา