ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียขยายตัวช้าลงในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีกระยะหนึ่ง
สำนักงานสถิติของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของออสเตรเลียในไตรมาสสองขยายตัว 0.6% จากไตรมาสแรก ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% เนื่องจากต้นทุนสินค้าประเภทอาหาร อุปกรณ์สื่อสาร และการสันทนาการปรับตัวลดลง แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3.1% จากปีก่อนหน้านี้
โดยต้นทุนสินค้าในหมวดสันทนาการปรับตัวลดลง 1.8% ในช่วงไตรมาส 2 ส่วนราคาอาหารลดลง 0.3% ตรงข้ามกับราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบที่ทะยานขึ้น 5.9%
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหนักสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากที่ทางการเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ที่ขยายตัวน้อยเกินคาด ซึ่งอาจลดโอกาสที่นายเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ดีมานด์สินค้าประเภทวัตถุดิบจากจีนยังคงกระตุ้นการขยายตัวในธุรกิจเหมืองของออสเตรเลีย ขณะที่อัตราว่างงานของออสเตรเลียปรับตัวลดลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจสร้างแรงกดดันให้ราคาสินค้าในออสเตรเลียดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0.8% มีบทบาทมากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางตรึงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไปในการประชุมสัปดาห์หน้า และนอกเหนือจากประเด็นนี้แล้ว แรงกดดันด้านราคาฝั่งอุปสงค์ที่มีความแข็งแกร่งจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของค่าจ้างแรงงานยังเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจะยังคงใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไปในปลายปีนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.และก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้ว 1.50% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.-พ.ค.จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 50 ปีที่ 3% ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ ออสเตรเลียมีอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50%