นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้จะรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงผลการเดินทางเยือนประเทศจีน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเจรจาให้จีนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการรถไฟ 2 ส่วน คือ การปรับปรุงสายทางรถไฟ และโครงการไฮสปีดเทรน
โดยการเจรจาเรื่องการปรับปรุงสายทางนั้น จะเป็นการปรับปรุงสายทางทั้งหมดตั้งแต่ชายแดนไทย-ลาว ถึงกรุงเทพฯ และลงใต้จรดสุไหงโกลก เพื่อเชื่อมเส้นทางให้เป็นรางมาตรฐานสำหรับในอนาคตที่อาจเชื่อมต่อจากด้านเหนือขึ้นไปถึงยุโรป และด้านล่างอาจลงไปได้ถึงสิงคโปร์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางในอาเซียนเชื่อมโยงกันได้อย่างครอบคลุม
ส่วนที่สอง เป็นการตกลงร่วมกันที่จีนจะเข้ามานำร่องในโครงการไฮสปีดเทรนเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง เป็นเส้นทางสายแรก โดยไทยจะดูแลเรื่องการใช้สิทธิในที่ดินแต่เพียงอย่างเดียว ส่วนที่เหลือจะเป็นสิทธิของจีนที่จะดำเนินการไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี หรือเรื่องต่างๆ
อย่างไรก็ดี หากวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายไทยเพื่อไปหารือในรายละเอียดกับจีนต่อไป และเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศจีนก็อาจจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ MOU เรื่องการลงทุนในส่วนนี้
ทั้งนี้ เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างรถไฟของจีนในขณะนี้ถือว่ามีความก้าวหน้ามาก หลังจากนายสุเทพ ได้ทดลองนั่งไฮสปีดเทรนจากปักกิ่งไปเทียนจินแล้ว พบว่าความเร็วที่ใช้สูงถึง 338 กม./ชม. ทำให้การเดินทางในระยะ 200 กว่ากม. ใช้เวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าดีกว่าประเทศอื่นที่เคยไปมา
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ไทยและจีนยังได้มีโอกาสหารือกันถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจีนเห็นชอบที่จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เพราะมีความพอใจในอัธยาศัยและมิตรไมตรีของคนไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากขึ้นในอนาคต