ฮิเดโตชิ คาเมซากิ หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่า การใช้ยุทธศาสตร์กระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและแผนการปฏิรูปการเงินของรัฐบาลด้วยความเร็วที่เหมาะสมนั้น จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการยุติภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยดีมานด์จะต้องเพิ่มขึ้น เพื่อที่เศรษฐกิจของประเทศจะได้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด ซึ่งยุทธศาสตร์ที่ได้รัฐบาลได้ประกาศไปเมื่อเดือนที่แล้วน่าจะช่วยได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บอร์ดบีโอเจกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ควรจะนำยุทธศาสตร์เหล่านี้มาใช้ ตามจังหวะเวลาที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสม โดยยุทธศาสตร์การขยายตัวฉบับใหม่ของรัฐบาลนั้น ตั้งเป้าสร้างดีมานด์มูลค่า 123 ล้านล้านเยน และสร้างงานอีก 5 ล้านตำแหน่งในภาคการค้า ธุรกิจเฮลธ์แคร์ และพลังงานสะอาด ขณะที่แผนการปฏิรูปการเงินนั้น ตั้งเป้าสร้างยอดเกินดุลในระบบการเงินรัฐบาลและหน่วยงานระดับท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2563
บอร์ดบีโอเจกล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจของต่างประเทศและการใช้นโยบายจูงใจให้มีการซื้อรถและเครื่องใช้ไม้สอยภายในบ้านของรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยที่เคยช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวทั้ง 2 ปัจจัยนั้นคงจะอ่อนแรงลง แต่โครงการให้เงินอุดหนุนเพื่อการดูแลเด็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในคำสัญญาที่พรรคดีพีเจได้ให้ไว้ในช่วงหาเสียงนั้น อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคส่วนบุคคลได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันเขามองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในระดับปานกลาง