เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของธนาคารกลางจีนประกาศแผนเดินหน้านโยบายปฏิรูปกลไกด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ท่ามกลางภาวะที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
หู เสี่ยวเหลียน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวในบทความที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของธนาคารว่า "การเปลี่ยนแปลงด้านราคาของปัจจัยการผลิต และการปฏิรูปกลไกด้านอัตราแลกเปลี่ยน มีความสอดคล้องกับแนวทางการใช้นโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาค"
ปัจจุบัน ราคาปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน การรักษาสิ่งแวดล้อม และต้นทุนแรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 10% ในปีนี้ หลังจากที่มีลูกจ้างในภาคการผลิตก่อเหตุประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรงหลายระลอก
นอกจากนี้ หูระบุว่า การปฏิรูปกลไกด้านการแลกเปลี่ยนเงินหยวนและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีของจีน ลดการใช้พลังงานและกระตุ้นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาระดับการขยายตัวที่ยั่งยืน
ขณะที่ในอีก 5-10 ปีต่อจากนี้ ประชาชนวัยทำงานของจีนจะมีจำนวนลดน้อยลงและแรงงานในปัจจุบันที่มีอยู่เกินความต้องการของตลาดจะสวนทางกัน ซึ่งจะสร้างแรงกดดันด้านค่าแรงในอนาคต
ทั้งนี้ การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้ยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยสร้างบรรยากาศด้านเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพต่อการปรับราคาต้นทุนการผลิต ขณะที่การแข็งค่าของเงินหยวนจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ และช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อหลังจากที่ต้นทุนการผลิตสินค้ามีราคาแพงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น