ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในหลายด้าน รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ อัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคเป็นไปอย่างล่าช้าด้วย โดยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนี้ คณะกรรมการเฟดได้รวบรวมข้อมูลก่อนวันที่ 19 ก.ค.ปีนี้
รายงานระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 10 เขตของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในคลิฟแลนด์ และแคนซัส ซิตี้ ค่อนข้างทรงตัว แต่เศรษฐกิจในแอตแลนต้าและชิคาโก ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆฟื้นตัวปานกลาง
"อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งท่าทีระมัดระวังในการใช้จ่ายของทั้งผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจ ประกอบกับภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคอ่อนแอลงด้วย โดยอุตสาหกรรมภาคการผลิตในนิวยอร์ก คลิฟแลนด์ แคนซัส ซิตี้ ชิคาโก แอตแลนต้า และริชมอนด์ ชะลอตัวลงอย่างมาก ขณะที่ปริมาณการผลิตเหล็กในชิคาโกและคลิฟแลนด์ ร่วงลงอย่างหนัก" รายงาน Beige Book ระบุ
ส่วนยอดค้าปลีกขยายตัวเพียงเล็กน้อยในภูมิภาส่วนใหญ่ เนื่องจากภาคครัวเรือนและผู้บริโภคโดยทั่วไปมองว่าควรซื้อสินค้าใหม่ๆเมื่อจำเป็นเท่านั้น ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี และยอดขายรถยนต์ หดตัวลงในภูมิภาคส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคส่วนใหญ่ซบเซาลง เนื่องจากนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านได้หมดอายุลงตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ" อันเป็นผลมาจากภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงตกต่ำ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาคครัวเรือนจับจ่ายใช้สอยน้อยลงและทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะที่เปราะบางมาก
เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในสหรัฐว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.2 - 9.5% ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.1 - 9.5%
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 10 ส.ค. นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน