นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เตรียมโน้มน้าวให้สภานิติบัญญัติเห็นชอบการกำหนดวันหมดอายุของแผนลดหย่อนภาษีสำหรับชาวอเมริกันที่ร่ำรวยในสิ้นปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นความคืบหน้าอีกขั้นในการผลักดันความพยายามด้านนโยบายการคลังของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ
ขณะนี้ไกธ์เนอร์กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดนโยบายการคลังก่อนที่วุฒิสภาจะเสร็จสิ้นการประชุม โดยท่าทีและถ้อยแถลงของไกธ์เนอร์ที่มีขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อประเด็นการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณโดยที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยในสัปดาห์หน้า ไกธ์เนอร์จะเริ่มขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคเดโมแครตให้เห็นชอบกับแผนการด้านนโยบายภาษี ซึ่งเมื่อช่วงที่ผ่านมา เขาได้พูดถึงนโยบายนี้ในระหว่างการปรากฏตัวต่อสาธารณะ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐต้องการให้มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับชาวอเมริกาที่มีรายได้สูงกว่า 250,000 ดอลลาร์ต่อปีนั้นสิ้นสุดลง และหันไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์ต่อปีเพิ่มขึ้น หลังจากที่เริ่มมีการบังคับใช้มาตรการลดหย่อนภาษีในปี 2544 และ 2546 ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งมาตรการนี้กำลังหมดอายุลงในสิ้นปีนี้
ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราว 1.47 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในปีนี้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่สมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์