ผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) บ่งชี้ว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ผล stress test ที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานเรื่องระบบเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมนั้น บ่งชี้ว่า แม้ระบบการธนาคารของสหรัฐมีเสถียรภาพ แต่ก็ถือว่าเปราะบางมาก เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัย ภาวะซบเซาของอัตราการปล่อยเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมรัพย์เชิงพาณิชย์ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาจเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดวิกฤต จนทำให้ธนาคารพาณิชย์เผชิญกับการขาดทุนมากยิ่งขึ้น
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ธนาคารขนาดเล็กและธนาคารระดับภูมิภาค รวมทั้งสาขาของธนาคารต่างชาติในสหรัฐ จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่ม 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถผ่านการทดสอบการเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1 capital) ที่ระดับ 6% สำหรับช่วงปี 2553 - 2557 ซึ่ง Tier 1 capital ถือเป็นบททดสอบสำคัญที่จะวัดความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังเรียกร้องให้คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผลักดันมาตรการต่างๆเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใน แฟนนี เม และเฟดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ (GSE) รวมถึงการแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ