มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า สเปนอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ Aaa หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มูดีส์ได้ประกาศทบทวนอันดับเครดิต Aaa ของสเปน และระบุความเป็นไปได้ที่สเปนอาจถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้ มูดีส์กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ
สตีเฟ เอ เฮสส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดอันดับความน่าเชื่อถือของมูดีส์ กล่าวว่า "ความน่าเชื่อถือของสเปนอยู่ในอันดับที่สูงมาก ผมไม่ได้บอกว่าอันดับเครดิตที่สูงของสเปนจะสิ้นสุดลง แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง ส่วนในสหรัฐนั้น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอาจเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของรัฐบาลในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ"
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า มูดีส์ประกาศทบทวนอันดับเครดิต Aaa ของสเปน และมีความเป็นไปได้ที่สเปนอาจถูกปรับลดอันดับลง 2 ขั้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว และสเปนยังต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายที่จะไปให้ถึงเป้าหมายด้านการคลัง ซึ่งแถลงการณ์ของมูดีส์มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลสเปนระดมทุนสูงถึง 3.5 พันล้านยูโร หรือ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการนำพันธบัตรอายุ 5 ปีออกจำหน่าย
"เรากำลังจับตาดูว่ารัฐบาลสเปนสามารถดำเนินนโยบายได้ตามที่วางไว้หรือไม่ และมีความเป็นไปได้ที่มูดีส์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง แต่ก็จะไม่ปรับลงมากเท่ากับกรีซ" นายเฮสส์กล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว มูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซลง 4 ขั้น สู่ระดับ Ba1 จากระดับ A3 โดยอันดับความน่าเชื่อถือที่ Ba1 ถือเป็นระดับ "ขยะ" หรือ "ระดับที่ไม่น่าลงทุน" เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่สัญญาไว้ได้หรือไม่ ซึ่งปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสถียรภาพด้านการเงินของยุโรปถูกสั่นคลอนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552
นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ระบุถึงสหรัฐกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ Aaa ของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์ในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 9.9% ของตัวเลขจีดีพี ขณะที่ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.47 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ในคืนวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวในอัตรา 2.3% ต่อปี ลดลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2.7% ต่อปี