นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 2/53 ขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี แม้ว่าจะมีปัจจัยเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง โดยอัตราการขยายตัวอาจใกล้เคียงกับที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดไว้ที่ 8%
อัตราเร่งตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างแรง โดยเฉพาะในเดือน มิ.ย.53 ที่ฟื้นขึ้นมาจากการชะลอตัวในเดือน พ.ค.53 อุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศขยายตัวได้ดี สอดคล้องกับการผลิตที่เร่งตัวขึ้น การท่องเที่ยวก็มีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี หลังชะลอตัวในเดือนก่อน
"การที่เศรษฐกิจกลับมาเร่งตัวได้เร็วสะท้อนถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และภาคเอกชนมีความสามารถในการปรับตัวได้ดี "นายเมธี กล่าวในการแถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.53
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นสูงมากในระดับ 52.1% หลังจากปัญหาการเมืองสงบลง ขณะที่มองไปข้างหน้าแม้ตัวเลขทรงตัว แต่ก็จะยังสูงกว่าระดับความเชื่อมั่นที่ 50 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี นอกจากนั้น ในแง่ของข้อจำกัดด้านธุรกิจในเดือน เม.ย.53 นักธุรกิจมองว่ามีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงถึง 61.8% แต่ค่อย ๆ ลดลงมาเหลือที่ 56.2% ในเดือนพ.ค.และล่าสุดเดือน มิ.ย.เหลือ 48.1%
การลงทุนภาคเอกชนไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง โดยยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง หากเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนและเดือนก่อนหน้า โดยเดือน มิ.ย.ขยายตัว 8.3% เทีบกับ 7.4% ในเดือน พ.ค.โดยรวมแล้วไตรมาส 2/53 การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ดีที่ 7.6% แม้ว่าจะชะลอตัวเล็กน้อยจากไตรมาส 1/53 ที่อยู่ในระดับ 7.7%
องค์ประกอบสูงขึ้นดูได้จากสินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้าเป็นสินค้าอิเลคทรอนิกส์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 30% ของสินค้าทุนที่นำเข้า และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นมาก
ด้านส่งออกในเดือน มิ.ย.สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 17.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน 47% ทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะเกษตรส่งออก มาจากการขยายตัวของราคาและเติบโตดีในทุกตลาด แม้ว่าสหภาพยุโรปจะมีปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไทยก็ส่งออกไปได้ถึง 38.8% ขณะที่มองแนวโน้มการส่งออกไตรมาส 3/53 น่าจะขยายตัวเหมือนกับที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะเติบโตเกิน 50% ขึ้นไป