World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2553

ข่าวต่างประเทศ Friday July 30, 2010 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 457,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 459,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 4,500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 452,500 ราย

-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นประจำเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.5% จากเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว

-- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ทั่วไปในเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่น ลดลง 1.0% จากปีที่แล้ว ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.1%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 16.9% จากปีที่แล้ว ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 16.5% สะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีใต้สามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

-- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.3% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 5.2%

โดยรายงานของกระทรวงระบุว่า จำนวนคนว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 3.44 ล้านคน ลดลง 40.000 คน เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ อัตราการว่างงานของผู้ชายอยู่ที่ 5.6% เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนอัตราการว่างงานของผู้หญิงอยู่ที่ 4.9% เพิ่มขึ้น 0.2%

-- นายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่นหากเศรษฐกิจอ่อนแอลง ซึ่งภาวะเงินฝืดจะลุกลามจนทำให้ราคาสินค้า มูลค่าที่อยู่อาศัย มูลค่าหุ้น และอัตราค่าแรงหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ นายบุลลาร์ดยังแนะนำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหากเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากภาวะเงินฝืด

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ชี้ธนาคารกลางจีนยังไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าประเทศต่างๆในเอเชียจะพากันขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากประเทศที่พัฒนาแล้ว

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกรายงานการประเมินเศรษฐกิจและนโยบายรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ โดยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า และยังมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงมากขึ้นด้วย

-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อรถประหยัดพลังงานในช่วงสิ้นเดือนก.ย.ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์เช่นในปัจจุบัน ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า สเปนอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ Aaa หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มูดีส์ได้ประกาศทบทวนอันดับเครดิต Aaa ของสเปน และระบุความเป็นไปได้ที่สเปนอาจถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้ มูดีส์กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีมีมูลค่าลดลงในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ทำสถิติเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปีในเดือนพฤษภาคม

โดยรายงานของสำนักงานระบุว่า ยอดขายปลีกในเดือนมิถุนายนเมื่อปรับค่าฤดูกาลแล้วมีมูลค่าลดลง 0.9% เทียบกับเดือนพฤษภาคมที่เพิ่มขึ้นถึง 3.0% ซึ่งเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกของเยอรมนีจะลดลงเพียง 0.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ