กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ในเดือน ก.ค.53 อยู่ที่ 108.32 เพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือน ก.ค.52 และเพิ่มขึ้น 0.16% จากเดือน มิ.ย.53 ขณะที่ CPI ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.53) ขยายตัว 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 โดยกระทรวงพาณิชยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปีไว้ตามเดิมที่ 3.0-3.5% และคาดว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 3 เป็นต้นไป" นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน ก.ค.53 อยู่ที่ระดับ 103.67 เพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือน ก.ค.52 และเพิ่มขึ้น 0.04% จากเดือน มิ.ย.53 ขณะที่ Core CPI ช่วง 7 เดือนแรก ขยายตัว 0.8%
สำหรับดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือน ก.ค.53 อยู่ที่ 123.97 เพิ่มขึ้น 6.9% จากเดือน ก.ค.52 และเพิ่มขึ้น 0.36% จากเดือน มิ.ย.53 ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 98.74 เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือน ก.ค.52 และเพิ่มขึ้น 0.03% จากเดือน มิ.ย.53
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศส่งผลให้ CPI ขยับเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่เดือน ต.ค.52 และเริ่มปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพตั้งแต่ต้นปี 53 โดยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เวียดนามเพิ่มขึ้น 8.7%, อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 5.1%, ฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 3.9% และมาเลเซียเพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่ไทยเพิ่มขึ้น 3.5%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ CPI เดือน ก.ค.53 ขยับเพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนมาจากการปรับตัวสูงขึ้นดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มถึง 6.9% ได้แก่ ข้าว แป้ง ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้ รวมทั้งหมดดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่ปรับเพิ่มขึ้น 1.4% จากสินค้าในกลุ่มเคหะสถาน การขนส่ง และการสื่อสาร
ขณะที่มาตรการลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาลนั้นทำให้ค่าครองชีพของประชาชนอยู่ในภาวะที่แสดงถึงความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ส่วนอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งของปีนี้จะมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากราคาสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคยังไม่มีสัญญาณที่จะขอปรับขึ้นราคา
"คิดว่าในช่วงไตรมาสนี้ยังไม่มีอะไรที่ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นราคา ซึ่งรัฐมนตรีพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือไว้จนจบไตรมาส 3" นายยรรยง กล่าว
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ส่วนการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการตรึงราคาสินค้าต่อไปอีกจนถึงสิ้นปีนั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงไตรมาสสามก่อน หากยังไม่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติกระทรวงพาณิชย์คงไม่จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ตรึงราคา เพราะเป็นช่วงที่ราคาสินค้าอ่อนตัวลงเนื่องจากผู้ประกอบการจะระบายสต๊อกสินค้า ดังนั้นในช่วงไตรมาสสามและไตรมาสสี่คาดว่าอัตราเงินจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.3-3.4%