บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.) เตรียมนำที่ดินของกรมธนารักษ์ที่อยู่นอกเมืองไปขอแลกกับพื้นที่เรือนจำที่อยู่ในเมืองของกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยของข้าราชการ โดยจะเริ่มนำร่องในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ซึ่งมีศักยภาพและเหมาะสม
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร รองกรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจและการตลาด ธพส.เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะนำพื้นที่เรือนจำซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนเมืองหรือมีแนวคิดที่ย้ายเนื่องจากความแดอัดไปพัฒนาเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ และสร้างประโยชน์ให้คุ้มค่า ซึ่งเบื้องต้นได้นำร่องศึกษาเรือนจำในภาคอีสานและภาคใต้ที่มีศักยภาพและเหมาะสม เช่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชุมพร โดยกรมธนารักษ์จะนำพื้นที่นอกเมืองไปขอแลกกับพื้นที่เรือนจำ ซึ่งคาดว่าจะศึกษาโครงการนี้เสร็จภายในกลางปี 54 ซึ่ง ธพส.เคยหารือเรื่องนี้กับกระทรวงยุติธรรมอย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ปี 49 แล้ว
นอกจากนี้ ธพส.เตรียมพัฒนาพื้นที่ 5 ไร่ บริเวณปากซอยราชครู ริมถนนพหลโยธิน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งสำนักงานของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน(บบส.) โดยจะเป็นโครงการอาคารสำนักงานพื้นที่ใช้สอย 25,000 ตารางเมตร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของราชการ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุน(พีพีพี)ในอัตราส่วน 70:30 ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรุปเสนอโครงการได้ภายในสิ้นปี 54 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 55 พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่ รสพ.เก่า จำนวน 4 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน ใกล้ รพ.เปาโล โดยพัฒนาเป็นอาคารชุด 8 ชั้น จำนวน 80-100 ยูนิต ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อเปิดให้ข้าราชการเช่าเดือนละ 4,000-5,000บาท
ส่วนศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนั้น ธพส.มีแผนพัฒนาพื้นที่โซนซีจำนวน 150 ไร่ โดยมีแนวคิด 3 แนวทาง คือ 1.สร้างโรงพยาบาล 2.สร้างศูนย์แสดงศิลปวัฒนะธรรม คล้ายกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเริ่มคับแคบ และ 3.สร้างอาคารคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นที่อาศัยสำหรับราชการที่ทำงานอยู่ในศูนย์ราชการ ซึ่งทางเลือกนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด ใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในสัดส่วน 70:30 และมีการระดมเงินด้วยการออกตราสารหนี้ ซึ่งคาดว่าเริ่มดำเนินโครงการได้ในปี 2554
ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดนั้น ธพส.เตรียมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม สำหรับใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกศูนย์ราชการ โดยจะใช้วิธีการเจรจราแบบปรองดอง หรือทางเลือกที่สองจะเจรจราขอผ่านพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติ
นายรักษ์ ยอมรับว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งปัญหาข้าราชการที่จองซื้อบ้านจาก ธสพ.ไม่สามารถกู้เงินได้เพราะติดเครคิตบูโรประมาณ 10-15% ทำให้การโอนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ล่าสุด ธพส.ได้เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการคือ โครงการบ้านธนารักษ์ อาคารชุดพักอาศัย จ.นนทบุรีจำนวน 624 หน่วย โครงการบ้านธนารักษ์ภูเก็ต อาคารชุด 156 หน่วย โครงการบ้านธนารักษ์ บ้านเดี่ยว 140 หน่วย และบ้านธนารักษ์สุพรรณบุรี บ้านเดี่ยว 40 หน่วย