กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ในเบื้องต้นเป็นผลจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่สูงขึ้นซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของการใช้จ่ายภาคเอกชน
อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนมิ.ย.มีมูลค่าต่อปีราว 8.36 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลดลง 7.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การขยายตัวของกิจกรรมก่อสร้างในเดือนมิ.ย.ส่วนใหญ่มาจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งยอดการใช้ของรัฐบาลสำหรับโครงการสร้างถนน สะพาน และที่ทำการของรัฐในเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่ 3.084 แสนล้านดอลลาร์ จากอานิสงส์ของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 8.62 แสนล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในภาคเอกชนร่วงลง 0.6% จากเดือนพ.ค.มาอยู่ที่ 5.276 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยลดลง 0.8% หลังมาตรการลดหย่อนภาษีเงินกู้สำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลงในสิ้นเดือนเม.ย. ขณะที่การใช้จ่ายสำหรับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. ทำสถิติร่วงลง 15 เดือนติดต่อกัน
สำหรับการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างโดยรวมปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มช้าลงในช่วงครึ่งปีหลัง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 2.4% ต่อปีในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัวในระดับ 3.7% ในไตรมาสแรกของปีนี้