สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงซื้อทางจิตวิทยาจากกลุ่มผู้ซื้อเอเชีย หลังจากมีข่าวว่า ธนาคารกลางจีนจะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออกตราสารอนุพันธ์ทองคำ เพื่อขยายช่องทางในตลาดทองคำ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,187.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,181.60 - 1,193.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 0.30 เซนต์ ปิดที่ 18.422 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 3.3585 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนต.ค.ร่วงลง 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,587.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนก.ย.ร่วงลง 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 506.45 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องจาก 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงในช่วงที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอออกมาเป็นระยะ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ทรงตัว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 75.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนจะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์นำเข้าและส่งออกทองคำได้มากขึ้น และจะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออกตราสารอนุพันธ์ทองคำ เพื่อขยายช่องทางในตลาดทองคำ ซึ่งข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้มีแรงซื้อส่งเข้าหนุนตลาด เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้ใช้ทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่ระดับ 1,282.279 ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันที่ 28 ก.ค.