นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึง ผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต ในรอบ 10 เดือนของปีงบประมาณ 2553 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 — กรกฎาคม 2553) ว่ากรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้รวมจำนวน 340,904.54 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 106,036.48 ล้านบาท จากยอดรายได้ภาษีที่จัดเก็บได้ในปีก่อนจำนวน 234,868.06 ล้านบาท และสูงกว่าประมาณการจำนวน 96,999.58 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.77
สำหรับรายได้ภาษีสรรพสามิตในรอบ 10 เดือน ของปีงบประมาณ 2553 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 — กรกฎาคม 2553) ที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 128,154.37 ล้านบาท 2) ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้จำนวน 63,605.06 ล้านบาท 3) ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 50,457.40 ล้านบาท 4) ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 44,951.52 ล้านบาท และ 5) ภาษีสุรา จัดเก็บได้จ นวน 35,548.93 ล้านบาท
ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตประจำเดือนกรกฎาคม 2553 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 34,566.50 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของ ปีก่อนจำนวน 5,621.50 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.42 (เดือนกรกฎาคม 2552 จัดเก็บได้ จำนวน 28,945 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ จำนวน 10,639.72 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.47
สำหรับเดือนกรกฎาคม 2553 ที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้จำนวน 12,604.89 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ จำนวน 4,077.74 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.82 2) ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้จำนวน 7,903.11 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการจำนวน 4,277.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 117.97 3) ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 4,753.65 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 1,289.72 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.23 4) ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 4,412.26 ล้านบาท สูงกว่าประมาณ รจำนวน 629.52 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.64 และ 5) ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 3,101.04 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 204.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.07
"กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2553 การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตจะเป็นไปตามประมาณการที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ 366,000 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น"นายอารีพงศ์กล่าว