World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 5, 2010 08:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 44.05 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 10,680.43 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.78 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 1,127.24 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 2,303.57 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบดบังข้อมูลต่างๆในด้านบวก รวมถึงรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด และภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มการจ้างงานในเดือนก.ค. สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) เดือนก.ย.ขยับลง 8 เซนต์ ปิดที่ 82.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคักเพราะมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนเพิ่มการจ้างงานในเดือนก.ค. ขณะที่ดัชนีภาคบริการเดือนก.ค.ของสหรัฐก็ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศนำเข้าและส่งออกทองคำมากขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่านโยบายของจีนจะช่วยกระตุ้นดีมานด์ทองคำภายในประเทศ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,195.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,187.00 - 1,205.50 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด และภาคเอกชนเพิ่มการจ้างงานในเดือนก.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 5 ส.ค. และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารที่ 10 ส.ค.นี้

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3160 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3226 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.34% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5893 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5948 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 86.240 เยน จากระดับของวันอังคาร 85.780 เยน และพุ่งขึ้น 1.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0523 ฟรังค์ จากระดับ 1.0394 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9168 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9125 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7350 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด รายงานผลประกอบการที่น้อยกว่าคาด ซึ่งส่งผลบดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงภาคเอกชนที่จ้างงานเพิ่มขึ้นและดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวเกินคาดในเดือนก.ค.

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 10.32 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 5,386.16 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,318.79 - 5,406.83 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ