คณะผู้ตรวจการจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นครั้งที่สองจากอียูและไอเอ็มเอฟ หลังจากที่คณะผู้แทนจากสององค์กรได้ร่วมกันทบทวนแผนลดรายจ่ายอย่างเข้มงวดของรัฐบาลกรีซมาเป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์ และพบว่ากรีซมีความคืบหน้าอย่างมากในการจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม คณะผู้ตรวจการเตือนว่า กรีซยังคงมีความท้าทายและความเสี่ยงต่างๆรออยู่ข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวานนี้ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และไอเอ็มเอฟ ได้เข้าพบกับนายจอร์จ ปาปาคอนสแตนตินู รัฐมนตรีคลังกรีซ เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดสุดท้ายของรายงานการตรวจสอบบัญชี ซึ่งจะยื่นไปถึงบรัสเซลส์และวอชิงตันในเดือนกันยายนนี้
แหล่งข่าวจากรัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า กรีซหวังว่ารายงานการตรวจบัญชีดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติ และกรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดที่สองมูลค่า 9 พันล้านยูโร (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันที่ 13 กันยายนนี้
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศพันธมิตรในยุโรปและไอเอ็มเอฟตัดสินใจให้เงินช่วยเหลือกรีซมูลค่า 1.1 แสนล้านยูโร (1.452 แสนล้านดอลลาร์) เป็นระยะเวลา 3 ปี แลกกับการที่กรีซต้องใช้มาตรการลดค่าใช้จ่ายและปฏิรูประบบการคลัง
ผู้ตรวจการดูเหมือนว่าจะพอใจกับความคืบหน้าของกรีซในการผลักดันตนเองให้หลุดพ้นจากวิกฤตหนี้สินขั้นรุนแรง แต่ยังคงแสดงความวิตกกังวลเรื่องรายได้จากการเก็บภาษีที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงความเชื่องช้าในการปฏิรูปโครงสร้างการเงิน ทางผู้ตรวจการจึงแนะนำให้กรีซเร่งมือให้เร็วขึ้นก่อนถึงฤดูใบไม้ร่วงนี้
ทั้งนี้ โพล ธอมเซ่น เจ้าหน้าที่จากไอเอ็มเอฟ แสดงความเชื่อมั่นว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดต่อไปแน่นอน