ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 53 โต 5.5-6.8% จากเดิม 4.0-6.0%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 6, 2010 18:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มอัตราการขยายตัวของจีดีพีของทั้งปี 2553 ขึ้นมาเป็น 5.5-6.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 4.0-6.0% โดยในกรณีหากไม่มีปัจจัยลบทางการเมืองที่รุนแรงจีดีพีน่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 6.2-6.8 ส่วนกรอบล่างของประมาณการรองรับกรณีหากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติ

"หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3/53 อาจขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.3-5.3 (YoY) และอาจชะลอตัวลงเหลือไม่เกินร้อยละ 2.5 ในไตรมาสสุดท้ายของปี" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 53 อาจมีการชะลอตัวตามทิศทางของเศรษฐกิจในภูมิภาคสำคัญๆ ของโลก ซึ่งในกรณีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เครื่องชี้เศรษฐกิจหลายด้านส่งสัญญาณชะลอตัวค่อนข้างชัดเจน บ่งชี้การฟื้นตัวที่เปราะบาง โดยเฉพาะเครื่องชี้ในภาคการผลิตและแนวโน้มการบริโภค ซึ่งในเดือน ก.ค.53 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตชะลอตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 55.5 ต่ำกว่าเดือน มิ.ย.ที่มีระดับ 56.2 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมาที่ระดับ 50.4 ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย โดยเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย.

ในด้านเศรษฐกิจจีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 51.2 ในเดือน ก.ค.จากระดับ 52.1 ในเดือนก่อนหน้า และสะท้อนการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 13.7% อ่อนตัวลงจาก 16.5% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีชี้ภาวะการผลิตของญี่ปุ่นก็ชะลอตัวเช่นกัน

เครื่องชี้เศรษฐกิจยูโรโซน แม้ว่าปรับเพิ่มขึ้นดีกว่าที่คาด แต่ส่วนหนึ่งมีผลของเม็ดเงินสะพัดจากมหกรรมฟุตบอลโลก 2010 ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยที่น่าเชื่อได้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะสามารถรักษาแรงส่งของการเติบโตในระดับดังกล่าวต่อไปได้ในระยะข้างหน้า เนื่องจากผลที่จะตามมาจากนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลในหลายประเทศจะเริ่มปรากฏชัดมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินยูโรที่เคยอ่อนค่าและหนุนภาคการส่งออกของภูมิภาคนั้น เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นท่ามกลางทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงระยะนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลให้การส่งออกรวมทั้งภาคการผลิตของยูโรโซนชะลอตัวลงในระยะต่อไป

จากทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกดังกล่าว ประกอบกับฐานเปรียบเทียบในปีก่อนที่ขยับสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การผลิตและการส่งออกของไทยในไตรมาสที่ 3/53 อาจชะลอลง และอาจเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว (YoY) ในช่วงไตรมาส 4/53 ซึ่งจะมีผลทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมเติบโตในอัตราที่ชะลอลงตามไปด้วย

เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี 53 การเติบโตของการส่งออกที่สูงถึง 37% (YoY) ได้ผลักดันให้จีดีพีของภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวสูงอาจถึงประมาณ 18% และมีผลต่อการเติบโตของจีดีพีของประเทศในครึ่งปีแรกมาก นับเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผลักดันให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มที่จะสูงถึง 10%

สำหรับอุปสงค์ภายในประเทศ ยังมีปัจจัยบวกที่อาจสนับสนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ โดยบรรยากาศทางการเมืองที่ผ่อนคลายลงน่าจะส่งผลดีต่อทิศทางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งรวมไปถึงงบไทยเข้มแข็งน่าจะเร่งตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีงบประมาณ ขณะที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่เริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการบริโภคก็มีแรงกดดันเพิ่มเข้ามาจากทิศทางเงินเฟ้อที่อาจปรับเพิ่มขึ้น และวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ