นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีนจะขยายตัวเพียง 13.4% หลังจากขยายตัวได้แข็งแกร่งถึง 13.7% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการที่ธนาคารกลางจีนผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ควบคุมเงินกู้ที่ปล่อยให้กับอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะสูง และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
จีนยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายลดการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนและลดการใช้พลังงานตามมาตรการระยะ 5 ปีที่กำหนดโดยนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 35% จากปีที่แล้ว ลดลงจากเดือนมิ.ย.ที่สามารถขยายตัวได้ถึง 43.9% และคาดว่ายอดนำเข้าอาจขยายตัวเพียง 30% ซึ่งจะทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ย.ทั้งสิ้น 1.96 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านนักวิเคราะห์จากเซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์ นิวส์ คาดการณ์ว่า ยอดการปล่อยกู้ใหม่ในอุตสาหกรรมการธนาคารของจีนเดือนก.ค.จะอยู่ที่ 7 แสนล้านหยวน หรือ 1.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 6.034 แสนล้านหยวน
ส่วนยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารยักษ์ใหญ่ 4 แห่งของรัฐบาลจีนคาดว่าจะอยู่ที่ 2.43 แสนล้านเยน ลดลง 22% จากปีที่แล้ว
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลด้านการนำเข้าและส่งออกในวันอังคารที่ 10 ก.ค. และจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ในวันพุธที่ 11 ส.ค.นี้