นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนผู้ติดตามปัญหาโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางเอ็นจีวี 4,000 คัน กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโครงการดังกล่าวขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เนื่องจากเห็นว่านักการเมืองร่วมรัฐบาลอาศัยสถานการณ์ความวุ่นวายจากปัญหาทางการเมืองและปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเสนอโครงการดังกล่าวที่มีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติในวันพรุ่งนี้(10 ส.ค.)
เนื่องจากเครือข่ายฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะแพงเกินจริงและอาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น ค่าใช้จ่ายในการเช่าและซ่อมถือว่าแพงเกินสมควร และต้องเริ่มซ่อมบำรุงตั้งแต่เริ่มเช่าซึ่งไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
"เครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้ ครม.พิจารณาไม่อนุมัติโครงการเช่ารถเมล์อัปยศ หากพบว่ามีการอนุมัติในราคาที่สูงเกินควรและมีการทุจริตเกิดขึ้น ทางเครือข่ายฯจะดำเนินการตามกฎหมายกับ ครม.ผู้อนุมัติต่อไป" นพ.ตุลย์ กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ส่งเสริมภาคประชาชนป้องกันการทุจริตและตรวจสอบภาครัฐ วุฒิสภา กล่าวว่า คณะอนุ กมธ.ฯ ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ คือ 1.ก่อนพิจารณาอนุมัติต้องนำโครงการดังกล่าวขอให้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 หากอนุมัติไปก่อนรัฐบาลจะมีปัญหาอย่างแน่นอน
2.ขสมก.ควรจะพิจารณาปรับปรุงรถเมล์ที่มีอยู่แล้วเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้แก๊สเอ็นจีวี เพื่อเป็นการลดต้นทุนการใช้เชื้อเพลิง โดยไม่ต้องไปเสียค่าเช่ารถจำนวนมหาศาล และ 3.หากกระทรวงคมนาคมคิดเป็นแต่ทำสัญญาเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 64,000 ล้านบาท จะไม่มีทางแก้ไขปัญหาขาดทุนได้
"รัฐมนตรีคมนาคมอาชีพหลักคือการทำสัญญาเช่าสูงๆ ถ้าผู้บริหารเป็นแบบนี้รัฐวิสาหกิจก็ไม่สามารถแก้ปัญหาขาดทุนได้ ดังนั้นถ้าเป็นแบบนี้ก็ควรโละออกทั้งทีม" นายไพบูลย์ กล่าว