สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะออกแถลงการณ์การประเมินภาวะเศรษฐกิจและตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมและพลาตินัมร่วงลงหลังจากจีนเปิดเผยยอดการนำเข้าที่ขยายตัวน้อยลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,198.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,192.50 - 1,204.10 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 8.40 เซนต์ ปิดที่ 18.158 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.15 เซนต์ ปิดที่ 3.3125 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,537.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 9.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 470.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำซบเซาลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง ก่อนที่เฟดจะออกแถลงการณ์ประเมินภาวะเศรษฐกิจและตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% และประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
สัญญาพลาตินัม พัลลาเดียม และโลหะทองแดงร่วงลงถ้วนหน้า หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่ายอดนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.7% สู่ระดับ 1.168 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัวได้ถึง 53% เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและดีมานด์การนำเข้าวัตถุดิบชะลอตัวลง