นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น มีแรงกดดันจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การส่งออกที่ยังขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี การไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในตลาดทุนและตลาดพันธบัตร ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่แข็งแรงนัก
วานนี้ค่าเงินบาทมาแตะที่ 31.95 บาท/ดอลลาร์ จาก 32.10 บาท/ดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่า 4.3% แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกมานัก เห็นได้จาก 6 เดือนแรกที่ยังขยายตัวได้ดี
ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าการแข็งค่าของเงินบาท ผู้นำเข้าวัตถุดิบจะได้ประโยชน์จากการนำเข้าวัตถุดิบที่ถูกลง ทำให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องไปถึงการจ้างงานและทำให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความสมดุลมากขึ้น
“ที่ผ่านมาไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดระดับสูง ประกอบกับมีเงินไหลเข้ากดดันค่าเงินบาทให้แข็งค่า แต่ธปท.จะดูแลให้มีเสถียรภาพมากที่สุด" นายบัณฑิต กล่าว